5 สัปดาห์ของการไปพักร้อนที่ถูกชาวต่างชาติประนามว่าไทยแลนด์ป่าเถื่อน
Summary
สวัสดีจ้าแฟนคลับของป้าพลอยทุกๆท่าน ป้าพลอยได้กลับมาจากพักร้อนมาราธอนแล้ว พอมาถึงบ้านก็กระโจนเข้าใส่เครื่องคอมฯเพราะคิดถึงมันมากห้าสัปดาห์ที่เข้าอินเตอร์เน็ตไม่ได้ หลังจากที่ป้าพลอยได้เข้ามาตั้งกระทู้เมื่อวันที่21มิถุนายนว่าจะไม่เข้ามาบอกว่าอยู่ที่ใหน ประเทศอะไรและสถานที่พักที่ใหน ป้าพลอยกราบขอบคุณแฟนคลับทั้งหลาย ที่เข้ามาในหลังไมค์ขอร้องด้วยความเป็นห่วงกันมากมาย เกรงป้าจะถูกตามล่า จึงห่วงความปลอดภัยของป้า ป้าเองก็งงว่าใครจะมาตามล่าตัวป้าพลอยหวา? ป้า พลอยไม่ได้ไปทำร้ายใคร หรือไปทำผิดอะไรเพียงแต่ต้องการค้นหาความจริงมาบอกกัน มันผิดตรงใหน? หลังจากที่แฟนคลับเข้ามาขอร้องไม่ให้บอกสถานที่พัก ป้าพลอยและลุงเลยเปลี่ยนใจหลังจากพักที่เมือง Denia ประเทศสเปนฯที่อยู่ใกล้เมืองAlicante ตอนแรกว่าจะไปเมืองวัวกะทิ งที่ Sevillaโดยขับผ่านช่องแคบที่เมือง Malaga การเปลี่ยนแผนไม่ไปที่Sevilla จึงหันกลับมาที่ประเทศฝรั่งเศสอีกครั้งแล้วมาพักอยู่ที่แคมป์ปิ้งที่ติดทะเล Mediterranean ถึงสามสัปดาห์ เล่นน้ำทะเลตากแดดจนผิวดำเป็นชาวแอฟริกันไปแล้ว การกลับเข้า ฝรั่่งเศสคราวหลังนี่หาที่เสียบเน็ตไม่ได้ต้องใช้ตัวเสียบ ลองแล้วปรากฏว่าลุงปีเตอร์ลืมPasswortเลยต่อเน็ตไม่ได้ ป้าพลอยก็ไปหาซื้อซิมมือถือแมร่งก็หาไม่ได้ถามคนที่ทำงานแผนกรี่เซฟชั่นของ แคมป์ ก็บอกว่าต้องไปเมืองใหญ่ๆ โอยจะบ้าตาย ประเทศนี้เมืองนี้ หา ซื้ออะไรก็ยากถามภาษาอังกฤษก็สั่นศรีษะพูดไม่ได้ เพราะเรื่่่องบางอย่างต้องใช่สื่่อสารภาษาอังกฤษเนื่องจากภาษาฝรั่งเศสไม่ แข็งแรง ป้าพลอยเลยมาโพสต์ที่ไทยฟรีนิวส์ไม่ได้ คิดถึงแฟนคลับป้าพลอยใจแทบขาดรอนๆ […]
สวัสดีจ้าแฟนคลับของป้าพลอยทุกๆท่าน ป้าพลอยได้กลับมาจากพักร้อนมาราธอนแล้ว พอมาถึงบ้านก็กระโจนเข้าใส่เครื่องคอมฯเพราะคิดถึงมันมาก
ห้าสัปดาห์ที่เข้าอินเตอร์เน็ตไม่ได้ หลังจากที่ป้าพลอยได้เข้ามาตั้งกระทู้เมื่อวันที่21มิถุนายนว่าจะไม่เข้ามาบอกว่าอยู่ที่ใหน
ประเทศอะไรและสถานที่พักที่ใหน ป้าพลอยกราบขอบคุณแฟนคลับทั้งหลาย ที่เข้ามาในหลังไมค์ขอร้องด้วยความเป็นห่วงกันมากมาย เกรงป้าจะถูก
ตามล่า จึงห่วงความปลอดภัยของป้า ป้าเองก็งงว่าใครจะมาตามล่าตัวป้าพลอยหวา?
ป้า พลอยไม่ได้ไปทำร้ายใคร หรือไปทำผิดอะไรเพียงแต่ต้องการค้นหาความจริงมาบอกกัน มันผิดตรงใหน? หลังจากที่แฟนคลับเข้ามาขอร้องไม่ให้บอกสถานที่พัก ป้าพลอยและลุงเลยเปลี่ยนใจหลังจากพักที่เมือง Denia ประเทศสเปนฯที่อยู่ใกล้เมืองAlicante
ตอนแรกว่าจะไปเมืองวัวกะทิ งที่ Sevillaโดยขับผ่านช่องแคบที่เมือง Malaga การเปลี่ยนแผนไม่ไปที่Sevilla จึงหันกลับมาที่ประเทศฝรั่งเศสอีกครั้งแล้วมาพักอยู่ที่แคมป์ปิ้งที่ติดทะเล Mediterranean ถึงสามสัปดาห์ เล่นน้ำทะเลตากแดดจนผิวดำเป็นชาวแอฟริกันไปแล้ว
การกลับเข้า ฝรั่่งเศสคราวหลังนี่หาที่เสียบเน็ตไม่ได้ต้องใช้ตัวเสียบ ลองแล้วปรากฏว่าลุงปีเตอร์ลืมPasswortเลยต่อเน็ตไม่ได้ ป้าพลอยก็ไปหาซื้อซิมมือถือแมร่งก็หาไม่ได้ถามคนที่ทำงานแผนกรี่เซฟชั่นของ แคมป์ ก็บอกว่าต้องไปเมืองใหญ่ๆ โอยจะบ้าตาย ประเทศนี้เมืองนี้
หา ซื้ออะไรก็ยากถามภาษาอังกฤษก็สั่นศรีษะพูดไม่ได้ เพราะเรื่่่องบางอย่างต้องใช่สื่่อสารภาษาอังกฤษเนื่องจากภาษาฝรั่งเศสไม่ แข็งแรง ป้าพลอยเลยมาโพสต์ที่ไทยฟรีนิวส์ไม่ได้ คิดถึงแฟนคลับป้าพลอยใจแทบขาดรอนๆ
อินเตอร์เน็ตเข้าไม่ได้เลยหันไป ซื้อหนังสือพิมพ์รายวันของฝรั่งเศสที่ชื่อMidi Libre และแม็กกาซินต่างๆมาอ่าน มีข่าวน่าสนใจหลายข่าว แต่ข่าวที่ทางเมืองไทยยากทราบไม่มีลงให้เห็นในหน้าหนังสือพิมพ์รายวันและ แม็กกาซิน ไม่ทราบว่าเรื่องที่หือฮานั้นข้อมูลจริงใครได้ทราบบ้าง
แต่ หากไม่มีมูลแล้วข่าวหือฮาจะออกมาได้อย่างไร? ก่อนที่ป้าจะเดินทางไปพักร้อนที่ประเทศสเปนฯ ป้าได้สอบถามไปยังคนไทยที่อยู่วงในและเขาก็ทราบข่าวหือฮานี้เช่นกัน เขายังบอกป้าเลยว่าในหมู่คนไทยในสหภาพยุโรปกำลังเมาท์เรื่องนี้กันให้แซ็ด ตอนระหว่างกลางๆเดือนมิถุนายน
ก่อนที่ป้าจะเดินทางมาพักร้อนที่ ประเทศสเปนฯ เรื่องจริงเท็จอย่างไรไม่อาจจะยืนยันกันได้ ดังนั้นเราอย่าไปให้ความสนใจกันมากนัก ตอนนี้เราต้องทำให้ภาพพจน์ประเทศไทยกลับคืนมาก่อน
ป้าพลอยมาพักร้อน ยังประเทศสเปนฯและฝรั่งเศส หลายๆชาติต่างถามถึงสาเหตุการฆาตกรรมในไทยแลนด์ว่าทำไมถึงได้ป่าเถื่อนผิด มนุษย์ แม้แต่เด็กและคนชราก็ยังฆ่าได้ ป้าพลอยอายคนต่างชาติแถบแทรกแผ่นดินหนี
แต่ก็ยอมสู้ความจริงยืนยัน อธิบายให้แต่ละคนฟังถึงสาเหตุ เขาถึงเข้าใจว่าที่แท้จริงแล้วคนไทยส่วนใหญ่ไม่ใช่คนโหดเหี้ยมอำมหิตฆ่าคน ได้ ชาติต่างๆที่ถามมีทั้ง เนเธอแลนด์ นอร์เวย์ เบลเยี่ยม อังกฤษ ฝรั่งเศส สวีเดน สวิสเซอร์แลนด์ เยอรมัน เดนมาร์ค ออสเตรีย อิตาลี่ ลักษแซมบรวก
และบางครั้งก็มีชาวสเปนฯที่มาแค็มป์ปิ้ง เนื่องจากตอนค่ำหลังจากทานอาหารค่ำแล้วต้องเอาเครื่องถ้วยจานไปล้างกันจึง เป็นจุดนัดพบเหล่าแม่บ้านพ่อบ้าน ทีมาจากนานาประเทศ ไต่ถามซึ่งกันและกัน ส่วนใหญ่เคยมาเที่ยวเมืองไทยกันทั้งนั้น
และรู้จักเมืองไทยดีต่าง พูดกันเป็นเสียงเดียวว่าน่าเสียดายภาพพจน์ไทยแลนด์ที่ต้องมาเสียหาย เพราะรัฐบาลอำมหิต และยังทราบถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสั่งฆ่าคนเสื้อแดงนี้อีกด้วย ป้าพลอยงงเหมือนกันว่าทำไมพวกเขาช่างรู้ดีเท่ากับคนไทยอย่างเราๆ
ดังนั้นใครว่าต่างชาติไม่รู้อะไรคิดผิด มาพักร้อนคราวนี้ป้าพลอยได้เข้าใจชาวยุโรปมากขึ้น ว่าพวกเขาก็รู้ควา
ให้ เขาชื่นชมอีกแล้ว มันเสียหายอย่างมากเลย ยิ่่งรัฐบาลไทยไล่จับไล่ฆ่าคนเสื้อแดงไม่เลิก ทำเหมือนเช่นสมัยนาซีฮิตเล่อร์ที่ไล่ฆ่าชาวยิว ฉะนั้นชาวยุโรปจึงต่างไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลไทยไล่ฆ่าไล่จับผู้คนที่ไม่มี ความผิดเข้าคุก
พวกเขาออกมาเรียกร้องขอความเป็นประชาธิปไตยในชาติ ด้วยมือเปล่าๆ แต่รัฐบาลไทยใช้วิธีโหดไล่ฆ่าพวกเขา ประเทศไทยไม่มีทางฟื้นขึ้นมาแน่นอน เพราะภาพลักษณ์ที่สูญเสียต่อสายตาชาวต่างชาติไม่มีทางกลับคืนมาแน่นอน
การ ที่สั่งทหารไล่ฆ่าประชาชนในวันที่19เมษายนนั้นทั่วโลกไม่อาจให้อภัยได้ มันโหดเกินไป ดังที่ชาวเนเธอร์แลนด์ได้ประณามให้ป้าพลอยฟัง ครอบครัวนี้อยู่ไม่ไกลกับกรุงเดนฮากอีกด้วย มีลูกชายสองคน สี่ขวบ กับ หกขวบ น่ารักมากๆเลย และ เมื่อวันที่22กรกฏาคมที่ผ่านมา
ป้าพลอย ได้ดูข่าวในทีวีในฝรั่งเศสเห็นทวีปเอเชียไปจัดประชุมที่กรุงฮานอยประเทศ เวียดนาม ซึ่งเชิญไทยแลนด์ไปประชุมด้วย แต่นักข่าวไม่ได้ถ่ายผู้นำไทยที่นั่งล้อมวงประชุม เลยไม่ทราบว่านายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะนายกมือเปื้อนเลือดของไทยแลนด์ไปประชุมด้วยหรือเปล่า?
แต่ เท่าที่ฟังทีวีในฝรั่งเศสมีการยกหลายๆเรื่อง เกี่ยวกับปัญหาในทวีปเอเซียเพราะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ อเมริกาเป็นประธานในการประชุม ไม่ทราบว่านายกไทยมือเปื้อนเลือดมองหน้าใครได้สนิทได้อย่างไร
เพราะ ที่ประชุมล้วนแล้วผู้นำเอเซียที่มีมือต่างขาวสะอาดปราศจากการฆ่าประชาชนของ ตนเอง ไม่มีมือที่เปื้อนเลือด เหมือนเช่นไทยแลนด์ ป้าพลอยเห็นธงชาติไทยอยู่ในกลางกลุ่มธงชาติ ชาติทวีปเอเชียแล้ว มีความรู้สึกอยากจะร้องไห้
ร้องให้กับความเป็นคนไทยของพวกเรา คนไทยสายเลือดไทย พวกเราไม่มีสิทธิ์ในความเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบรูณ์เช่นชาติเอเซียอื่นๆ ที่ให้สิทธิ์ประชาชนเต็มร้อย เขาไม่เข่นฆ่าประชาชนที่เรียกร้องความเป็นประชาธิปไตย
เขาไม่รังแก ประชาชนเพราะความอยากเป็นใหญ่ในประเทศ ไม่ใช่แค่ทวีปเอเชียที่เขาอยู่อย่างประชาธิปไตย หันมามองทวีปในยุโรปทุกๆประเทศประชาชนมีความเป็นอยู่อย่างสันติสุข รัฐบาลให้สิทธิ์ให้เสียงให้ความคุ้มครองประชาชนทุกครัวเรือน
ภาพที่ เห็นชาติอื่นๆมีอิสระแล้วให้สะท้อนใจอย่างมากกับการที่พวกเราคนไทยต้องถูก จำกัดสิทธ์ ทั้งที่เราเรียกร้องขอความเมตตาและความยุติธรรม แต่ถูกไล่ฆ่าไล่ตีจนต้องสูญเสียชีวิตกันมากมาย การประณามของคนต่างชาติต่อการกระทำของรัฐบาลไทยทีทำกับคนเสื้อแดง
ป้า พลอยฟังด้วยสองหูมันช่างเศร้าใจกับการที่ได้ยินคำประนามอย่างหยาบคายเผ็ด ร้อนที่มีต่อรัฐบาลฆาตกรของนายอภิสิทธิ์ ชาวนานาชาติถามว่าประเทศไทยส่วนใหญ่นับถือพุทธถึง95%มิใช่หรือ?
แล้ว ทำไมจึงมีการอนุญาติให้ทหารใช้อาวุธสงครามสังหารหมู่คนไทยที่นับถือพุทธ อย่างเหี้ยมโหดในวัดได้? ไม่มีการให้ความเคารพหรือยกเว้น คำถามนี้ป้าพลอยแทบหน้าหงายที่ถูกถาม ป้าพลอยตอบเขาได้คำเดียวว่าฉันก็ไม่ทราบเหมือนกัน
ว่าทำไมเขาจึง สังหารได้ทั้งที่คนเหล่านั้นหลบมาอาศัยในวัดที่เป็นเขตปลอดภัย ต้องไปถามนายกแห่งประเทศไทยเอาเองว่าทำไมจึงสังหารหมู่ในเขตพระราชทาน? คำว่าไทยแลนด์ป่าเถื่อน ฆ่าคนชาติเดียวกันอย่างไร้ความเมตตา
ทำให้ ป้าพลอยเที่ยวแบบไม่มีความสุข ปีนี้ป้าพลอยได้เจอเพื่อนชาวอังกฤษอีกครั้งหนึ่ง เราไม่ได้นัดกัน มาเจอกันโดยบังเอิญในแคมป์เดียวกัน ป้าพลอยและลุงปีเตอร์มาถึงในตอนเช้าหลังจากย้ายจากทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน
มา อยู่บนภูเขาแถบProvence เพื่อนชาวอังกฤษมาถึงตอนบ่ายๆ ดีใจกันมากที่เจอกันอีกครั้ง วันต่อมาป้าพลอยได้เชิญเพื่อนสามีภรรยาที่มาจากลอนดอน มาทานอาหารดินเนอร์ที่แคมป์ที่พัก เพราะพักกันคนละล็อก
ป้าพลอยได้ ประกอบอาหารทะเลคือกุ้ง โดยผัดใส่เครื่องเทศกับน้ำมันมะกอกและใส่เหล้าบรั่นดีรวมทั้งกระเทียมสด หอมหวนชวนรับประทานมาก ทานกับขนมปังฝรั่งเศสอร่อยมาก อีกทั้งดื่มเหล้าไวน์ขาวและไวน์แดงด้วยกัน
ลังทานอาหารดินเนอร์ซึ่ง มีทั้งอาหารว่างคือสลัด ส่วนอาหารหลักคือกุ้งและอาหารตบท้ายด้วยชีทหลายๆชนิด หลังจากนั้นก็เป็นเวลาที่เราต่างเมาท์ถึงเรื่องต่างๆทั่วๆไป สุดท้ายเพื่อนชาวอังกฤษได้ถามถึงเหตุการณ์ป่าเถื่อนในไทยแลนด์
ป้า พลอยสำลักเหล้าไวน์ทันทีที่ถูกถามเช่นนี้ Alax and Anna ซักถามถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น ระหว่างRed shirt and Thai government ป้าพลอยจึงต้องอธิบายกันยืดยาว เขาถามว่าทำไมจึงต้องถึงสั่งทหารฆ่า Red shirt?ทั้งที่คนเหล่านี้มือเปล่า?
คำถามของเพื่อนชาวอังกฤษที่ถาม ป้าพลอยน้ำตาแทบไหลออกมาเพราะความสะเทือนใจ เพราะป้าพลอยเสียน้ำตาให้กับวันที่19เมษายนนั้นมากมาย น้ำตาของผู้ทีต่อสู้เพื่อที่จะให้ไทยแลนด์ได้มีประชาธิปไตยเต็มใบ
ต่อสู้ เพื่อให้ประชาชนไทยมีอิสระภาพเหมือนเช่นในเครือสหภาพยุโรปและทวีปอื่นๆที่ เขามีประชาธิปไตยเต็มใบ ไม่ปกครองด้วยเผด็จการทหารบังหน้าเช่นในไทยแลนด์ ความเจ็บปวดครังนี้ทุกๆคนไม่มีวันลืม แม้จวบจนถึงณะวันนี้ป้าพลอยคนนี้ยังเจ็บปวด
บาดแผลอันนี้ไม่มีวัน สลายลงไปได้ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ภาพที่คนRed shirt ถูกฆ่าอย่างป่าเถื่อนไร้ความเมตตา ถึงแม้ป้าพลอยจะมาพักร้อนยังต่างประเทศแต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ป้าพลอยได้หาย ไปจากความเจ็บปวดครั้งนี้เลย
และยิ่งมีชาวยุโรปนานาประเทศสอบถาม เกี่ยวกับไทยแลนด์เหมือนมีหนามมาทิ่มให้เจ็บปวดเข้าอีก ยิ่งเน็ตต่อเข้าไม่ได้แทบจะบ้าตาย ป้าพลอยฟังเพื่อนชาวอังกฤษที่เขาอธิบายถึงสิ่งต่างๆในประเทศอังกฤษและระบบ การปกครอง
ซึ่งประชากรชาวอังกฤษเขาอยู่ด้วยกันอย่างFreedomเพราะ ทั้งรัฐบาลและควีนไม่เกี่ยวข้องกัน คนอังกฤษรักใคร่ครอบครัวควีนเป็นอย่างมาก ป้าได้สอบถามถึงข่าวเกี่ยวกับเจ้าชายชาร์กับคาเมลลาที่เห็นพาดหัวข่าวใน หนังสือแม็กกาซีนเล่มหนึ่งว่าจะหย่าขาดจากกัน แต่ Alex บอกว่าไม่จริง
ดู เขาปกป้องครอบครัวของควีนและเขา ยังยืนยันว่าครอบครัวของควีนไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง คนในครอบครัวของควีนทุกคนทุ่มเทกำลังกายกำลังใจเพื่อสังคมเพื่อประชากรชาว อังกฤษ ดูอย่างเจ้าชายวิลเหลี่ยมและเจ้าชายแฮนรี่ยังไปยังทวีปแอฟริกา
ปเสี่ยง ภัยดูการเก็บกู้กับระเบิดในประเทศที่เคยมีสงครามกลางเมืองของคนชาติแอฟริกัน เดียวกัน ฉะนั้นการที่เราฟังประชากรชาติที่พัฒนาแล้วทั้งในด้านจิตใจและการพัฒนา ประเทศ จึงแตกต่างกับไทยแลนด์ของเราเป็นอย่างมาก ไทยแลนด์เรายังไปไม่ถึงใหนเลย
ทั้งที่น่าที่จะโลดแล่นไปไกลกว่าพม่า บัดนี้ล้าหลังพม่าและเวียดนาม ซึ่งมันน่าละอายที่สุดสำหรับคนไทยที่อยู่ยังต่างแดน และอยู่ในประเทศ ที่บ้านเกิดของตนต้องถอยหลังไปเริ่มจากเลขศูณย์ใหม่ และกว่าจะรุดนำหน้าชาติเอเซียอื่นๆต้องใช้เวลาเป็นสิบๆปี
การพัฒนา ประเทศและการที่จะสร้างชื่อเสียงขึ้นมาใหม่ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ กว่าชาวโลกจะเชื่อเครดิตของไทยแลนด์นั้นอีกต้องใช้เวลา เพราะครั้งนี้ถูกตราหน้าว่าใจอำมหิต ชาติต่างๆต่างสั่นศรีษะที่เห็นทหารถืออาวุธสงครามติดกล้องสไนเปอร์ส่องยิง ประชาชนเหมือนยิงสัตว์
แล้วใครเขาจะมาลงทุนทำกิจการด้วย ยิ่งนายกสั่งฆ่าประชาชนแล้วยังดำรงตำแหน่งต่อไปโดยไม่ลาออก แล้วประเทศใดจะเชื่อถือ ไทยแลนด์ปัจจุบันนี้เป็นไทยแลนด์ทีไม่สมบรูณ์แบบ ขาดความเมตตาขาดรอยยิ้มที่แสนน่ารัก
ไม่มีชาติใหนชื่นชมว่าไทย แลนด์เมืองยิ้มอีกต่อไป ฉะนั้นทุกๆคนควรต้องหันมาบูรณะประเทศและบูรณะจิตใจก่อนอื่น เริ่มด้วยรัฐบาลต้องยกเลิกระบบคุมถุงชนที่ใช้อยู่ ทราบว่ายังใช้พรกในเขตกรุงเทพฯซึ่งอำนาจของรัฐบาลที่กระทำมันผิดกฎสากล
เพราะ ใช้นานเกินกำหนดทั้งที่เหตุการณ์ได้สงบลงมาหลายเดือนแล้ว หากรัฐบาลยังไม่ยอมเลิกข่มขืนสิทธิ์ต่อประชาชน ความสงบสุขก็คงจะไม่มีเกิดขึ้น ประชาชนที่ถูกทำร้ายจะยิ่งเกลียดรัฐบาลนี้ยิ่งขึ้น
ป้าพลอยมาพัก ร้อนห้าสัปดาห์จึงไม่ได้ข่าวความเคลื่อนไหวการเมืองไทย ไม่ได้อ่านข่าวในออน์ไลน์เกี่ยวกับไทยแลนด์เลยรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ทำงาน คืบหน้าไปถึงใหนแล้ว? ไล่ฆ่าคนเพิ่มหรือยอมรับโทษ?หรือพัฒนาประเทศเจริญก้าวข้ามประเทศพม่า?
ป้า พลอยเขียนกระทู้นี้ก่อนเดินทางกลับบ้าน ตัวอักษรอาจมีการผิดพลาดเพราะต้องโหลดใส่อีกเครื่องหนึ่่ง แล้วค่อยพบกันใรสารคดีท่องเที่ยวมีภาพให้ดูด้วยจ้า…